วัดเชียงทอง อัญมณีศิลปะล้านช้าง

วัดเชียงทอง หลวงพระบาง

"อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง"

ที่มา https://www.mushroomtravel.com/tour/outbound/laos/mush170458-bit0125-laos-3d-2n-by-pg

สวัสดีค่าาาาา ครั้งนี้ LOVE TO TRAVEL จะพาทุกคนไปเที่ยวและรู้จักกับศิลปะความงดงามในหลวงพระบางกันค่ะ หลวงพระบางแน่นอนว่าทุกคนต้องรู้จักหรือไม่ก็อาจจะเคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาแล้วอย่างแน่นอน เพราะที่นี่เป็นเมืองมรดกโลกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรานี้เอง เป็นเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมของคนพื้นเมืองลาว และสถานที่ที่สำคัญมากมาย ซึ่งถ้าหากได้ไปที่หลวงพระบางจะไม่พูดถึงสถานที่ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็น "อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง" เลยไม่ได้ ซึ่งสถานที่แห่งนั้น คือ วัดเชียงทอง นั้นเองค่ะ

วัดเชียงทอง "อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง"

ที่มา https://buddyjourneytourthailand.com/package/

ประวัติความเป็นมา

วัดเชียงทองนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในระหว่าง พ.ศ. 2102-2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรล้านช้าง และล้านนา สร้างขึ้นก่อนที่พระองค์จะย้ายเมืองหลวงมายังนครหลวงเวียงจันทน์ไม่นานนัก วัดนี้ถือว่าเป็น “วัดประตูเมือง” และก็ยังเป็นท่าเทียบเรือด้านเหนือ สำหรับการเสด็จประพาสทางชลมารคของกษัตริย์หลวงพระบาง ต่อมาวัดเชียงทองจึงได้รับการอุปถัมภ์มาโดยตลอด โดยเฉพาะ ในสมัยเจ้ามหาชีวิต ศรีสว่างวงศ์ และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนากษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาวอีกด้วย

ที่มา http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=188

ที่ตั้ง

อยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง

สถาปัตยกรรมช่างล้านช้างที่แสนงดงาม

สิ่งที่โดดเด่นและสะดุดตานักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือสถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้ ซึ่งภายในวัดประกอบด้วย

ที่มา https://2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G7653305/G7653305.html

พระอุโบสถ ภาษาลาวเรียกว่า สิม เป็นพระอุโบสถหลังไม่ใหญ่โตมากนัก หลังคาพระอุโบสถมีหลังคาแอ่นโค้ง ลาดต่ำลงมาซ้อนกันอยู่สามชั้น กล่าวกันว่านี่คือศิลปะแห่งหลวงพระบาง ส่วนกลางของหลังคามีเครื่องยอดสีทองชาวลาวเรียกว่าช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อเป็นข้อสังเกตุว่าวัดที่พระมหากษัตริย์สร้าง จะมีช่อฟ้า 17 ช่อ ส่วนคนสามัญสร้างจะมีช่อฟ้า 1- 7 ช่อเท่านั้น

ที่มา https://2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G7653305/G7653305.html

ส่วนที่ประดับที่ยอดหน้าบันชาวลาวเรียกว่าโหง่ มีรูปร่างเป็นเศียรนาคและมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับศาสนาพุทธ ประตูพระอุโบสถแกะสลักสวยงามเช่นเดียวกับหน้าต่างภายในพระอุโบสถมีภาพสวยงามที่ผนัง มีลักษณะลวดลายปิดทองฉลุบนพื้นรักสีดำ ส่วนใหญ่เป็นภาพพุทธประวัติเรื่องพระสุธน – มโนราห์ และเรื่องพระเจ้าสิบชาติ

ที่มา http://www.indochinaontour.com/photo_gallery/Luangprabang_6_9Jun56/Luangprabang_Jun56_07.htm

พระประธาน หรือชาวลาวเรียกว่าพระองค์หลวง ภายในพระอุโบสถเป็นสีทองงดงามอร่ามตาด้านข้างพระองค์หลวงมีพระบางจำลอง และผนังด้านหลังของพระอุโบสถเป็นภาพที่เกิดจากการใช้กระจกสีตัด ติดต่อกันเป็นรูปต้นทองขนาดใหญ่ ซึ่งเคยมีในเมืองหลวงพระบางลักษณะคล้ายต้นโพธิ์ ด้านข้างต้นทองเป็นรูปสัตว์ในวรรคดียามใดที่แสงแดดสดส่องสะท้อนดูงดงาม

ที่มา http://oknation.nationtv.tv/blog/supawan/2009/06/20/entry-1

วิหารน้อย (หรือหอไหว้น้อย) มีหลังคาเป็นรูปใบโพธิ์ตัดครึ่ง อันเป็นรูปแบบของลาวดั้งเดิมซึ่งประดับด้วยกระจกสีงดงามมาก ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย พระราชทานให้แก่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์

วิหารพระม่าน
ที่มา https://2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G7653305/G7653305.html

ผนังด้านข้าง
ที่มา https://2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G7653305/G7653305.html

ส่วนวิหารอีกหลังที่อยู่ด้านหลังพระอุโบสถคือ วิหารพระม่าน ผนังวิหารด้านนอกมีลักษณะคล้ายกับวิหารองค์แรก ภายในวิหารนี้ประดิษฐาน พระม่าน ผนังด้านหลังวิหารทาด้วยสีชมพูประดับด้วยกระจกสีแสดงถึงวิถีชีวิตของผู้คน สร้างขึ้นใน พ.ศ.2493 เพื่อเฉลิมฉลองที่โลกก้าวสู่ยุคกึ่งพระพุทธกาล

ทีมา https://2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G7653305/G7653305.html

ที่มา https://www.thairath.co.th/content/1236856

โรงเมี้ยนโกศ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2505 หลังการสิ้นพระชนม์ของ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ เป็นอาคารที่มีหลังคาสูง ประดับด้วยงานแกะสลักเรื่องรามเกียรติ์ งดงามมาก หอราชโกศนี้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษามรดกเก่าแก่ของหลวงพระบาง เช่น ราชรถ ไม้แกะสลักปิดทอง ประดิษฐานพระโกศ 3 องค์ คือ องค์ใหญ่ตรงกลางเป็นของเจ้าศรีสว่างวงศ์ องค์เล็กด้านหลังของพระราชมารดา ส่วนองค์ด้านหน้าเป็นของพระเจ้าอา

ที่มา http://laos-travel.blogspot.com/2013/09/blog-post_13.html

              ทั้งหมดนี้คือสถาปัตยกรรมในวัดเชียงทองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น "อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง" สวยงามและตระการตา

   การเดินทาง     

สามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินหลวงพระบางและใช้นั่งรถโดยสารหรือรถแท็กซี่เข้าไปในเมืองหลวงพระบางได้เลย แต่ก่อนจะถึงวัดสามารถนั่งรถต่างๆได้ดังนี้

 - รถมอเตอร์ไซค์ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ได้ตามที่พักหรือในเมือง ราคาวันละประมาณ 100,000 กีบ

             - รถรับจ้างท้องถิ่น มีบริการรถรับจ้างท้องถิ่นทั้งจากสนามบินและตัวเมือง สามารถว่าจ้างแบบเหมาจ่ายเพื่อรับ-ส่งถึงอาคารผู้โดยสารได้

             - รถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 13 ตัดเข้าถนน Phetsarat จากสนามบินเพื่อเข้าสู่ตัวเมือง

ที่มา https://www.goisgo.net/

เวลาเปิด-ปิด

วัดเชียงทองเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 17.30 น.

ค่าเข้าชม

สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ด้านหน้าวัดเชียงทอง ราคา 20,000 กีบ

การเดินทางถือว่าสะดวกมากๆ แถมยังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรา ใครมีเวลาว่าง อยากพักผ่อนชมความสวยงามของศิลปะ และวัฒนธรรมอย่างแท้จริง หลวงพระบางเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของท่านที่ควรแก่การไปชม และถ้าหากไปหลวงพระบาง ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปวัดเชียงทองที่ดิฉันได้นำเสนอรูปแบบสถาปัตยกรรมต่างๆภายในวัดซึ่งมีทั้งพระอุโบสถ พระประธาน และวิหารต่างๆ ที่มีความสวยงาม เน้นความละเอียด และความประณีตในการทำลวดลายต่างๆ  เหมาะกับการเป็นสถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศิลปะแห่งล้านช้าง

✈Let's go✈

เจอกันบล็อกหน้านะคะ👋👋👋👋👋

ขอขอบคุณที่มา👇👇🙏🙏🙏

อ้างอิง

โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์. (ม.ป.ป.). วัดเชียงทอง หลวงพระบาง "อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่าง

ล้านช้าง". สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561,จาก : http://www.oceansmile.com/Lao/ChaingtongWat.htm

Webmaster. (2561). วัดเชียงทอง สุดยอดอัญมณีศิลปะล้านช้างในหลวงพระบาง ประเทศลาว. สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561,จาก : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=188

AUAU AAUU. (ม.ป.ป.). วัดเชียงทอง : หลวงพระบาง. สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561,จาก : http://laos-travel.blogspot.com/2013/09/blog-post_13.html